องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์เก้าต้น นำโดยนางสาวยุภา  ผลเกตุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์เก้าต้น ร่วมรับรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ประจำปี 2568 (Local Award 2025) ในวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568 ณ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์  โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย มอบรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง โดยองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์เก้าต้นได้รับรางวัล “ท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ระดับองค์การบริหารส่วนตำบล ระดับชมเชย (Bronze)”

ซึ่ง กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดให้มีการประเมินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง (High – Potentiated Local Assessment: HPA) เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศที่มีผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Local Performance Assessment: LPA) ทั้งเชิงกระบวนการ และเชิงผลลัพธ์ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการ ด้านการบริหารงานบุคคลและกิจการสภา ด้านการเงินและการคลัง ด้านการบริการสาธารณะ และด้านธรรมาภิบาล รวมถึงการประเมินท้องถิ่นศักยภาพสูง (High–Potentiated Local Assessment: HPA) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ

ด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์เก้าต้น จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เป็นเหตุให้ต้องจัดการเลือกตั้งภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงขอประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวทราบและสำรวจคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของตนเองให้ครบถ้วนก่อนการสมัครรับเลือกตั้ง ดังนี้

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปรับลดการระบายน้ำ จากเดิมอัตรา 200 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันไดเป็นลำดับตั้งแต่ วันที่ 13 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา น. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 740 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 77 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 376 ลบ.ม./วินาที หรือ 32 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณการระบาย 200 ลบ.ม./วินาที หรือ 17 ล้าน ลบ.ม./วัน จากการติดตามและคาดการณ์ปริมาณน้ำ ไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ด้านเหนือเขื่อน 7 วันข้างหน้า ปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนฯ มีแนวโน้ม ลดลงต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำที่จะไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งเพื่อช่วยลดผลกระทบด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์จะดำเนินการปรับลดการระบายน้ำ จากเดิมอัตรา 200 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันไดเป็นลำดับตั้งแต่ วันที่ 13 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชน จากการที่ระดับน้ำ ในแม่น้ำป่าสักจะลดลงจากเดิมอีกประมาณ – เมตร จึงใคร่ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป

ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แจ้งปรับลดการระบายน้ำ จากอัตรา 350 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 200 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลา น. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 709 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 74 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 457 ลบ.ม./วินาที หรือ 39 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณการระบาย 350 ลบ.ม./วินาที หรือ 30 ล้าน ลบ.ม./วัน จากการติดตามและคาดการณ์ปริมาณน้ำ ไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ด้านเหนือเขื่อน 7 วันข้างหน้า ปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนฯ มีแนวโน้ทรงตัว เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำที่จะไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งเพื่อช่วยลดผลกระทบด้านท้าย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำใน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์จะดำเนินการปรับลดการระบายน้ำ จากอัตรา 350 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 200 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันไดเป็นลำดับ ในอัตราวันละ 50 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชน จากการที่ระดับน้ำ ในแม่น้ำป่าสักจะลดลงจากเดิมอีกประมาณ – เมตร จึงใคร่ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป